สำหรับการตั้งค่าเพื่อคำนวณค่าจ้างนั้น จะมีทั้งหมดสองวิธีสำหรับใช้เพื่อพิจารณาจำนวนวันในหนึ่งเดือนสำหรับกรณีที่ใช้เพื่อการคำนวณเงินเดือน โดยในแต่ละวิธีนั้นจะตอบจุดมุ่งหมายที่มีความแตกต่างกันออกไป:
1. จำนวนวันในหนึ่งเดือนสำหรับใช้เพื่อคำนวณค่าจ้างรายวัน
การตั้งค่านี้จะนำมาใช้เพื่อกำหนดว่าจะจะแบ่งจำนวนค่าจ้างรายเดือนเป็นจำนวนค่าจ้างรายวันอย่างไรในกรณีปกติ ตัวอย่างเช่น การคำนวณฐานเงืนเดือน หรือ การหักลาไม่รับเงิน
สามตัวอย่างด้านล่างนี้จะแสดงให้เห็นถึงการใช้งานสำหรับอัตราค่าจ้างรายวันที่แตกต่างกันไปซึ่งขึ้นอยู่กับวิธีของ "จำนวนวันในหนึ่งเดือน" (Days in Month) ที่คุณได้เลือก:
ตัวอย่างที่ 1: "อยู่บนพื้นฐานของจำนวนวันตามปฏิทิน" (Based on Calendar Days)
หากเงินเดือน คือ 30,000 บาท และ จำนวนวันในหนึ่งเดือน "Days in Month" ถูกตั้งค่าไว้เป็นแบบจำนวนวันตามปฏิทิน (เช่น 31 วัน สำหรับเดือน มกราคม):
ค่าจ้างรายวัน = เงินเดือน ÷ จำนวนวันตามปฏิทินในเดือนนั้นๆ
= 30,000 ÷ 31 บาท
= 967.74 บาทต่อวัน
ตัวอย่างที่ 2: "อยู่บนพื้นฐานของจำนวนวันที่ทำงานจริง" (Based on Working Days)
หากเงินเดือน คือ 30,000 บาท และ จำนวนวันในหนึ่งเดือน "Days in Month" ถูกตั้งค่าไว้เป็นแบบจำนวนวันที่ทำงานจริง (เช่น จำนวนวันทำงาน คือ 23 วัน สำหรับเดือนมกราคม):
ค่าจ้างรายวัน = เงินเดือน ÷ จำนวนวันที่ทำงานจริงในเดือนนั้นๆ
= 30,000 ÷ 23 บาท
= 1,304.35 บาทต่อวัน
ตัวอย่างที่ 3: "จำนวนวันแบบคงที่" (Fixed Amount) (เช่น 30 วัน)
หากเงินเดือน คือ 30,000 บาท และ จำนวนวันในหนึ่งเดือน "Days in Month" ถูกตั้งค่าไว้เป็นจำนวนแบบคงที่ 30 วัน:
ค่าจ้างรายวัน = เงินเดือน ÷ จำนวนวันแบบคงที่
= 30,000 ÷ 30 บาท
= 1,000 บาทต้อวัน
2. จำนวนวันในหนึ่งเดือนสำหรับการคำนวณค่าจ้างแบบไม่เต็มเดือน
การตั้งค่านี้จะนำมาใช้เพื่อกำหนดจำนวนวันที่ถูกใช้เพื่อคำนวณเงินตามตามอัตราส่วนสำหรับพนักงานที่ทำงานไม่เต็มเดือน — ตัวอย่างเช่น กรณีที่พนักงานเริ่มงานและออกจากงานในตอนกลางเดือน
จำนวนวันที่เลือก (เช่น จำนวนวันตามปฏิทิน, จำนวนที่ทำงานจริง, หรือ จำนวนแบบคงที่) ถูกใช้เพื่อกำหนดว่าเงินเดือนของพนักงานควรจะรับเท่าใดโดยบนพื้นฐานของจำนวนวันทำงานที่แท้จริง
สามตัวอย่างด้านล่างนี้จะแสดงให้เห็นถึงการใช้งานสำหรับอัตราค่าจ้างจ่ายตามสัดส่วนที่แตกต่างกันไปซึ่งขึ้นอยู่กับวิธีของ จำนวนวันในหนึ่งเดือน "Days in Month" ที่คุณได้เลือก:
ตัวอย่างที่ 1: "อยู่บนพื้นฐานของจำนวนวันตามปฏิทิน" (Based on Calendar Days)
หากเงินเดือน คือ 30,000 บาท และ จำนวนวันในหนึ่งเดือน "Days in Month" ถูกตั้งค่าไว้เป็นแบบจำนวนวันตามปฏิทิน (เช่น 31 วัน สำหรับเดือน มกราคม):
พนักงานเริ่มงาน: 20 มกราคม
จำนวนวันที่ทำงานจริง: 12 วัน (นับจากวันที่ 20th ถึงวันที่ 31st)
ค่าจ้างรายวัน = เงินเดือน ÷ จำนวนวันตามปฏิทินในเดือนนั้นๆ
= 30,000 ÷ 31 บาท
= 967.74 บาทต่อวัน
ค่าจ้างแบบไม่เต็มเดือน = ค่าจ้างรายวัน × จำนวนวันทำงานที่แท้จริง
= 967.74 × 12 บาท
= 11,612.88 บาท
ตัวอย่างที่ 2: "อยู่บนพื้นฐานของจำนวนวันทำงานจริง" (Based on Working Days)
หากเงินเดือน คือ 30,000 บาท และ จำนวนวันในหนึ่งเดือน "Days in Month" ถูกตั้งค่าไว้เป็นแบบจำนวนวันที่ทำงานจริง (เช่น วันที่ทำงานจริงในเดือนมกราคม คือ 23 วัน นับวันทำงานวันจันทร์–ศุกร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ด้วย):
พนักงานเริ่มงาน: 20 มกราคม
จำนวนวันทำงานที่แท้จริง: 10 วันทำงาน (นับจากวันที่ 20 to 31 ไม่นับรวมวันหยุดเสาร์-อาทิตย์)
ค่าจ้างรายวัน = เงินเดือน ÷ จำนวนวันทำงานในหนึ่งเดือน
= 30,000 บาท ÷ 23 วัน
= 1,304.35 บาทต่อวัน
ค่าจ้างแบบไม่เต็มเดือน = ค่าจ้างรายวัน × จำนวนวันทำงานที่แท้จริง
= 1,304.35 บาท × 10 วัน
= 13,043.50 บาท
ตัวอย่างที่ 3: "จำนวนแบบคงที่" (Fixed Amount) (เช่น 30 วัน)
หากเงินเดือน คือ 30,000 บาท และ "จำนวนวันในหนึ่งเดือน" (Days in Month) ถูกตั้งค่าไว้เป็นแบบคงที่ จำนวน 30 days:
พนักงานเริ่มงาน: 20 มกราคม
จำนวนวันที่ทำงานจริง: 12 วัน (นับจากวันที่ 20 - 31)
ค่าจ้างรายวัน = เงินเดือน ÷ จำนวนวันแบบคงที่
= 30,000 บาท ÷ 30 วัน
= 1,000 บาทต่อวัน
ค่าจ้างแบบไม่เต็มเดือน = ค่าจ้างรายวัน × จำนวนวันที่ทำงานจริง
= 1,000 บาท × 12 วัน
= 12,000 บาท
วิธีประยุกต์ใช้กับวิธีนี้กับเงินเดือนสำหรับเดือน กุมภาพันธ์:
สามตัวอย่างด้านล่างนี้อยู่บนพื้นฐานวิธีการของ "จำนวนวันในหนึ่งเดือน" (Days in Month) ที่แตกต่างกันไป โดยใช้การคาดการณ์ตาม:
ตัวอย่างที่ 1: "อยู่บนพื้นฐานของจำนวนวันตามปฏิทิน" (Based on Calendar Days)
- วันในเดือนกุมภาพันธ์: 28 วัน
- จำนวนวันทำงานที่แท้จริงตามปฏิทิน: 19 วัน
ค่าจ้างรายวัน = 30,000 บาท ÷ 28 วัน = 1,071.43 บาทต่อวัน
ค่าจ้างแบบไม่เต็มเดือน = 1,071.43 บาท × 19 วัน = 20,357.14 บาท
ตัวอย่างที่ 2: "อยู่บนพื้นฐานของจำนวนที่วันทำงานจริง" (Based on Working Days)
- จำนวนวันในเดือนกุมภาพันธ์ 2568: 20 วัน (จันทร์–ศุกร์)
- จำนวนวันทำงานที่แท้จริง นับจากวันที่ 10–28 กุมภาพันธ์: จำนวน 15 วัน
ค่าจ้างรายวัน = 30,000 บาท ÷ 20 วัน = 1,500.00 บาทต่อวัน
ค่าจ้างแบบไม่เต็มเดือน = 1,500.00 บาท × 15 วัน = 22,500.00 บาท
ตัวอย่างที่ 3: "จำนวนแบบคงที่" (Fixed Amount) (เช่น 30 วัน)
- จำนวนแบบคงที่: 30 วัน
- จำนวนวันทำงานที่แท้จริงตามปฏิทิน: 19 วัน
ค่าจ้างรายวัน = 30,000 บาท ÷ 30 วัน = 1,000.00 บาทต่อวัน
ค่าจ้างแบบไม่เต็มเดือน = 1,000.00 บาท × 19 วัน = 19,000.00 บาท
คุณสามารถประยุกต์ใช้ "การตั้งค่าเพื่อคำนวณค่าจ้างรายวัน" (Wages Calculation Settings) ให้กับ "กลุ่มของพนักงาน" (Employee Groups) ที่เฉพาะเจาะจง โดยให้แต่ละกลุ่มพนักงานปฏิบัติตามกฎการคำนวณเงินเดือนที่แตกต่างกันออกไป โดยอยู่บนพื้นฐานของบทบาท, สัญญาจ้าง หรือ โครงสร้างการจ่าย
หมายเหตุ: แต่ละ "กลุ่มพนักงาน" (Employee Group) สามารถถูกมอบหมายไว้ภายใต้ "การตั้งค่าเพื่อการคำนวณค่าจ้าง" (Wages Calculation Setting) เพียงอันใดอันหนึ่งต่อครั้งเท่านั้น
Example:
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
เยี่ยมเลย!
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ
ขออภัยที่เราช่วยเหลือไม่ได้!
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ
ส่งข้อเสนอแนะแล้ว
เราขอขอบคุณในความพยายามของคุณ และจะพยายามแก้ไขบทความดังกล่าว